Article

B'Protein Plus

สาระสุขภาพ

"สมองที่สอง"  ของร่างกาย
1 ตุลาคม 2567

"สมองที่สอง" ของร่างกาย

ลำไส้ สมองที่สองของร่างกายจึงไม่ใช่แค่ย่อยอาหาร แต่เป็นกุญแจสำคัญของการมีสุขภาพที่ดี


รู้มั้ยส่วนไหนของร่างกายที่มีเซลล์ประสาทมากกว่าไขสันหลังและทำงานได้อย่างอิสระจากระบบประสาทส่วนกลาง?

คำตอบก็คือ ลำไส้ นั่นเอง

การที่ลำไส้ถูกเรียกว่า "สมองที่สอง" และทำไมจึงมีบทบาทสำคัญต่อร่างกาย เหตุผลหลักๆ มาจากการทำงานที่ซับซ้อนของระบบประสาทในลำไส้ (gut-brain axis) ดังนี้

1. จำนวนเซลล์ประสาทมาก: ลำไส้ของมนุษย์มีเซลล์ประสาทประมาณ 100 ล้านเซลล์ ซึ่งมากพอๆ กับที่พบในไขสันหลัง ระบบประสาทนี้สามารถทำงานได้โดยอิสระจากสมองในการควบคุมกระบวนการย่อยอาหารและการเคลื่อนไหวของลำไส้
2. การผลิตสารสื่อประสาท: ลำไส้มีบทบาทในการผลิตสารสื่อประสาทที่สำคัญ เช่น เซโรโทนิน (serotonin) ประมาณ 90% ของเซโรโทนินในร่างกายถูกสร้างขึ้นในลำไส้ ซึ่งเซโรโทนินเกี่ยวข้องกับการควบคุมอารมณ์และการทำงานของสมอง
3. การสื่อสารระหว่างลำไส้กับสมอง: การสื่อสารระหว่างสมองและลำไส้เกิดขึ้นผ่านระบบประสาทวากัส (vagus nerve) ซึ่งส่งสัญญาณสองทางระหว่างสมองกับลำไส้ ความผิดปกติในระบบนี้อาจส่งผลต่ออารมณ์ ความเครียด และความผิดปกติทางอารมณ์ เช่น ภาวะซึมเศร้าและความวิตกกังวล
4. ผลกระทบต่อสุขภาพจิตและกาย: งานวิจัยพบว่าความสมดุลของจุลินทรีย์ในลำไส้มีผลต่อสมอง การมีจุลินทรีย์ที่ดีในลำไส้จะช่วยเสริมสร้างสุขภาพจิตและลดความเสี่ยงของโรคต่างๆ เช่น ภาวะซึมเศร้าและโรคเกี่ยวกับระบบประสาท

ลำไส้ไม่ได้เป็นเพียงอวัยวะที่ย่อยอาหารเท่านั้น แต่ยังเป็นศูนย์ควบคุมทางประสาทที่มีอิทธิพลต่อร่างกายและจิตใจมากกว่าที่เราคิด 70% ของเซลล์ภูมิคุ้มกันอาศัยอยู่ในลำไส้

ระบบทางเดินอาหารถือเป็นหนึ่งในพื้นที่ที่มีเซลล์ภูมิคุ้มกันมากที่สุดในร่างกาย เพราะลำไส้เป็นทางผ่านของสิ่งที่มาจากภายนอก เช่น อาหาร น้ำ และจุลินทรีย์ต่างๆ ระบบภูมิคุ้มกันจึงมีบทบาทสำคัญในการปกป้องร่างกายจากสิ่งแปลกปลอมที่อาจเป็นอันตราย
เซลล์ภูมิคุ้มกันที่สำคัญในลำไส้ ได้แก่:
1. เซลล์เพเยอร์สแพทช์ (Peyer’s Patches): เป็นกลุ่มเนื้อเยื่อภูมิคุ้มกันที่อยู่ในผนังลำไส้เล็ก มีบทบาทในการตรวจจับและตอบสนองต่อเชื้อโรค
2. เซลล์ลิมโฟไซต์ (Lymphocytes): รวมถึงเซลล์ T และเซลล์ B ซึ่งทำหน้าที่ปกป้องร่างกายจากเชื้อโรค โดยเซลล์เหล่านี้จะตอบสนองต่อแอนติเจนที่พบในลำไส้และผลิตแอนติบอดีเพื่อจัดการกับสิ่งแปลกปลอม
3. เซลล์แมคโครฟาจ (Macrophages) และ เซลล์เดนไดรติก (Dendritic Cells): เซลล์เหล่านี้ทำหน้าที่จับและกลืนกินเชื้อโรคหรือสิ่งแปลกปลอมที่พบในลำไส้ พร้อมทั้งทำหน้าที่ส่งสัญญาณไปยังเซลล์ภูมิคุ้มกันอื่นๆ ให้เข้ามาตอบสนอง
4. อิมมูโนโกลบูลิน A (IgA): เป็นแอนติบอดีชนิดหนึ่งที่พบมากในลำไส้และทำหน้าที่ปกป้องเยื่อบุลำไส้จากการติดเชื้อและการอักเสบ



นั่นคือเหตุผลว่า ทำไมสุขภาพลำไส้จึงมีความสำคัญในการกระตุ้นภูมิคุ้มกันของเราเพื่อต่อสู้กับโรคต่าง ๆ

มาดูแลลำไส้ให้มีสุขภาพดีกันค่ะ

การดูแลลำไส้ ให้มีสุขภาพดีมีหลายวิธี ดังนี้
  • กินอาหารที่หลากหลาย เพื่อเพิ่มความหลากหลายของกลุ่มจุลินทรีย์ในลำไส้
  • จัดการกับความเครียดในแบบของคุณ เช่น การทำสมาธิ, การพักผ่อน, การฝึกจิต หรือ ฝึกโยคะ เป็นต้น
  • ถ้าคุณมีปัญหาลำไส้อยู่แล้ว ให้หลีกเลี่ยงแอลกอฮอล์ คาเฟอีน และอาหารรสเผ็ด เพราะการรับประทานอาหารเหล่านี้จะช่วยทำให้ปัญหาแย่ลง
  • พยายามปรับปรุงการนอน การศึกษาหนึ่งพบว่า ถ้าคุณรบกวนนาฬิการ่างกายด้วยการเปลี่ยนรูปแบบการนอน ก็จะเป็นการรบกวนวงจรของจุลินทรีย์ในลำไส้ไปด้วย และจงจำไว้ว่า คุณต้องดูแลมันให้ดี

"A stable and healthy gut is essential to overall health,
an imbalance can negatively influence the gut and the brain"
B'Protein Plus

สาระสุขภาพ